PTT-Digital_logo_transparent.png



ประกาศความเป็นส่วนตัวของผู้มาติดต่อเข้าห้อง Data Center และห้อง CSOC


 

บริษัท พีทีที ดิจิตอล โซลูชั่น จำกัด (“บริษัท”) ให้ความสำคัญกับความเป็นส่วนตัวและมุ่งมั่นที่จะคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน (“ข้อมูลส่วนบุคคล”) ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 (“พ.ร.บ.ฯ”) บริษัท จึงได้จัดทำประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ขึ้น เพื่อแจ้งให้ท่านทราบถึงรายละเอียดเกี่ยวกับการเก็บ รวบรวม การใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

 

1.           วัตถุประสงค์ของการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัท จะเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเฉพาะเมื่อมีเหตุผลที่เหมาะสมในการดำเนินการ และ/หรือ ที่กฎหมายกำหนดให้กระทำการได้ ซึ่งรวมถึงการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้กับบุคคลภายนอกด้วย โดยมีวัตถุประสงค์หลัก ดังต่อไปนี้

1.1      เพื่อการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ในการปฏิบัติตามกฎหมาย หรือภาระข้อผูกพันตาม

กฎหมาย

1.2      เพื่อประโยชน์อันชอบธรรมตามกฎหมายของบริษัท ที่จะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน              

โดยยังคงคำนึงถึงสิทธิขั้นพื้นฐานของท่านนั้นไม่เหนือไปกว่าประโยชน์ของบริษัท

 

2.           ฐานในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล

ในการดำเนินการเพื่อให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ บริษัท อาจประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านภายใต้กฎหมายที่เกี่ยวข้อง และฐานทางกฎหมาย โดยบริษัท ได้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวโดยใช้ฐานทางกฎหมายดังต่อไปนี้

 

วัตถุประสงค์ของการเก็บรวบรวม การใช้ และการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

ฐานในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล

การบริหารความมั่นคง ความปลอดภัย และความเสี่ยง

·       เพื่อยืนยันตัวตนของท่าน

·       เพื่อป้องกันอาชญากรรม และบริหารจัดการความปลอดภัยของบริษัท เช่น ติดตั้งกล้องวงจรปิดภายใน และโดยรอบบริษัท

ซึ่งอาจมีการเก็บภาพ ภาพเคลื่อนไหว ภาพใบหน้าและเสียง

ของท่าน การแลกบัตรผ่านเข้าออกห้อง Data Center

·       เพื่อปฏิบัติตามกฎหมาย และกฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง

·       ฐานหน้าที่ตามกฎหมาย

·       ฐานประโยชน์อันชอบธรรม

 

 

 

 

 

3.           การเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัท เก็บรวบรวมและใช้ข้อมูลส่วนบุคคลดังนี้

3.1      บริษัท เก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลจากท่านโดยตรง

3.2      ประเภทของ “ข้อมูลส่วนบุคคล” ของท่านที่บริษัท เก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผย (รวมเรียกว่า

“ประมวลผล”) ภายใต้กฎหมายที่เกี่ยวข้อง รวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงข้อมูลส่วนบุคคลดังต่อไปนี้

·       ข้อมูลส่วนตัว: ชื่อ นามสกุล หมายเลขบัตรประจำตัวประชาชน หมายเลขหนังสือเดินทาง

ลายมือชื่อ ภาพถ่ายจากกล้องคอมพิวเตอร์ ภาพหรือบันทีกจากกล้องวงจรปิด (CCTV)

·       ข้อมูลการติดต่อ: ชื่อบริษัท เบอร์โทรศัพท์ อีเมล์

3.3      การปฏิเสธให้ข้อมูลส่วนบุคคลแก่บริษัท

ในกรณีที่บริษัท จำเป็นต้องเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน และท่านไม่ให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

แก่บริษัท บริษัท อาจปฏิเสธการติดต่อเยี่ยมชมของท่าน

 

4.           การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัท อาจเปิดเผยหรือส่งต่อข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่บุคคลภายนอก เพื่อให้บุคคลเหล่านี้ประมวลผล

ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ดังต่อไปนี้

4.1      การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่บุคคลอื่น

·    ผู้รับเหมาช่วง หรือผู้ให้บริการใด ๆ ที่ทำงานให้กับบริษัท หรือให้บริการแก่บริษัท ทั้งนี้รวมถึง

ผู้รับเหมาช่วง ผู้ให้บริการ ผู้บังคับบัญชา และผู้ปฏิบัติงานของบุคคลดังกล่าว

·    คนกลาง บุคคลผู้ติดต่อ และตัวแทนของท่าน

·    หน่วยงานที่บังคับใช้กฎหมาย รัฐบาล ศาล หน่วยงานระงับข้อพิพาท

·    บุคคลอื่นใดซึ่งมีความเกี่ยวข้องกับข้อพิพาทใด ๆ ที่เกิดขึ้น

·    บุคคลใด ๆ ที่บริษัท ได้รับคำสั่งจากท่านให้เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้กับบุคคลดังกล่าว

4.2      การส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังต่างประเทศ

บริษัท อาจต้องส่ง หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังต่างประเทศ เพื่อจัดเก็บ และ/หรือ

ประมวลผลในการปฏิบัติตามสัญญาที่ทำขึ้นระหว่างท่าน และบริษัท โดยบริษัท จะไม่อนุญาตให้บุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว และจะกำหนดให้มีมาตรการรักษาความปลอดภัยที่เหมาะสม

 

5.           การเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัท จะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้ตราบเท่าที่จำเป็น เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม และประมวลผลข้อมูลดังกล่าว โดยบริษัท จะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้เป็นระยะเวลา 1 ปี         นับจากวันที่ท่านเข้าเยี่ยมบริษัท โดยบริษัท จะลบ ทำลาย หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุ       ตัวบุคคลที่เป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ เว้นแต่ในกรณีที่มีเหตุจำเป็นทางกฎหมาย หรือเหตุผลทางเทคนิครองรับ บริษัท อาจเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้นานกว่านั้น

 

 

6.           สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล

ท่านมีสิทธิในข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามกฎหมายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล โดยบริษัท จะเคารพสิทธิของท่านและจะดำเนินการตามกฎหมาย กฎเกณฑ์ หรือกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องกับการประมวลผลข้อมูลของท่านภายใต้สถานการณ์บางประการ อย่างทันท่วงที

ท่านมีสิทธิดำเนินการเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านดังต่อไปนี้

6.1      สิทธิในการขอเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล: ท่านมีสิทธิในการขอสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากบริษัท

6.2      สิทธิในการขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคล: ท่านมีสิทธิขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้ถูกต้อง เป็น

ปัจจุบัน และสมบูรณ์

6.3      สิทธิในการขอลบข้อมูลส่วนบุคคล: ท่านมีสิทธิร้องขอให้บริษัท ลบ ทำลาย หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคล

ของท่านไม่สามารถระบุตัวตนของท่านได้ในกรณีที่ไม่มีเหตุผลอันสมควรให้บริษัท ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านต่อไป โดยท่านสามารถใช้สิทธิในการขอให้บริษัท ลบข้อมูลส่วนบุคคลนี้ควบคู่ไปกับสิทธิในการคัดค้านในข้อถัดไป อย่างไรก็ตาม การใช้สิทธินี้จะต้องไม่เป็นการใช้สิทธิเพื่อขอให้ลบข้อมูลส่วนบุคคลทั้งหมด โดยบริษัท             จะพิจารณาแต่ละคำขอด้วยความระมัดระวังตามบทบัญญัติของกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

6.4      สิทธิในการคัดค้าน: ท่านมีสิทธิคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่บริษัท ประมวลผล

ภายใต้ฐานผลประโยชน์อันชอบธรรมของบริษัท นอกจากนี้ ท่านยังมีสิทธิคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หากบริษัท ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อวัตถุประสงค์ทางการตลาด การบันทึกและวิเคราะห์ลักษณะทางจิตวิทยาและพฤติกรรมของบุคคล (Profiling)

6.5      สิทธิในการขอให้มีการระงับการประมวลผล: ท่านมีสิทธิขอให้บริษัท ระงับการประมวลผลข้อมูลส่วน

บุคคลของท่านชั่วคราว เช่น เมื่อท่านต้องการให้บริษัท แก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้ถูกต้อง หรือเมื่อท่าน        ร้องขอให้บริษัท พิสูจน์เหตุผล หรือฐานทางกฎหมายในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

6.6      สิทธิในการยื่นข้อร้องเรียน: ท่านมีสิทธิยื่นข้อร้องเรียนต่อหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้อง รวมไปถึง

คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลในกรณีที่ท่านเห็นว่า บริษัท หรือพนักงานของบริษัท หรือผู้ให้บริการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามพ.ร.บ.ฯ หรือประกาศอื่น ๆ ที่ออกโดยอาศัยอำนาจตามพ.ร.บ.ฯ ดังกล่าว

ท่านอาจใช้สิทธิข้างต้นของท่านได้ตลอดเวลา โดยติดต่อบริษัท ผ่านทางช่องทางการติดต่อตามที่ระบุไว้      ในข้อ 8 ด้านล่าง

บริษัท อาจมีความจำเป็นต้องขอข้อมูลบางประการจากท่านเพื่อใช้ในการยืนยันตัวตนของท่านและรับรองสิทธิของท่านในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล (หรือเพื่อใช้สิทธิอื่นใด) เพื่อให้เป็นไปตามมาตรการความปลอดภัยที่จะทำให้ท่านมั่นใจได้ว่าข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจะไม่ถูกเปิดเผยต่อบุคคลที่ไม่มีสิทธิเข้าถึงข้อมูลดังกล่าว

บริษัท จะใช้ความพยายามในการตอบกลับคำขอที่ถูกต้องตามกฎหมายทั้งหมดภายใน 30 วัน ในบางกรณี บริษัท อาจใช้เวลามากกว่า 30 วันหากคำขอของท่านมีความซับซ้อน หรือท่านยื่นคำขอเข้ามาเป็นจำนวนมากกว่าหนึ่งคำขอ ในกรณีดังกล่าว บริษัท จะแจ้งให้ท่านทราบและจะทำการแจ้งสถานะของคำขอให้ท่านทราบอยู่เสมอ

 

 

 

7.           ความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

บริษัท ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นอย่างยิ่ง บริษัท จะตรวจสอบและใช้มาตรการรักษาความปลอดภัยขององค์กร ทั้งทางกายภาพ และทางเทคนิคที่เหมาะสมอยู่เสมอ ในการจัดเก็บและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เพื่อให้มั่นใจว่าข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจะไม่สูญหาย ถูกทำลายโดยไม่ตั้งใจ ถูกเปิดเผย และนำไปใช้ในทางที่ผิดวัตถุประสงค์ หรือ เข้าถึงโดยบุคคลอื่นที่ไม่ใช่พนักงานหรือผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่ปฏิบัติหน้าที่ของบริษัท

 

8.           การจัดการกับเรื่องร้องเรียน หรือข้อสงสัย

ท่านสามารถติดต่อบริษัท เพื่อร้องเรียนเกี่ยวกับวิธีการที่บริษัท จัดเก็บ ใช้ ประมวลผล และเปิดเผยข้อมูล     ส่วนบุคคลของท่าน หรือสอบถามข้อสงสัยได้ที่ช่องทาง ดังต่อไปนี้

บริษัท พีทีที ดิจิตอล โซลูชั่น จำกัด

555/1 ศูนย์เอนเนอร์ยี่คอมเพล็กซ์ อาคารเอ ชั้น 4-5

ถนนวิภาวดีรังสิต แขวงจตุจักร เขตจตุจักร กรุงเทพฯ 10900

โทรศัพท์: 66 (0) 2140 2000 โทรสาร: 66 (0) 2140 2999

อีเมล: DPOs@pttdigital.com

 

 



Power By Reddot digital co.,ltd.